วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คนที่น่ากลัวที่สุด แต่ก็น่าปรารถนามีไว้ใกล้ตัวที่สุด คือ คนที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

คนที่น่ากลัวที่สุด แต่ก็น่าปรารถนามีไว้ใกล้ตัวที่สุด คือ คนที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

**************************************

คนที่มุ่งมั่น เขาจะไม่ยอมแพ้อะไรงา่ย ๆ แม้เราหรือใครจะเอาชนะเขาได้ แต่เราจะไม่สามารถยินดีกับชัยชนะเราได้นาน เพราะคเขากำลังมุ่งมั่น และไล่กวด เพื่อเอาชนะเราคืนให้ได้

ดังนั้น คนที่มุ่งมั่นจึงเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด

แต่ ....

คนที่มุ่งมั่น จะทำให้เราไม่หยุดอยู่กับที่ ทุกคนที่ได้รับชัยชนะ มักจะใช้เวลาดอมดมความหอมหวานของชัยชนะ จนบางครั้่ง ไม่อยากที่จะสู้ต่อเพื่อชัยชนะที่สูงขึ้นไปอีก เพราะถือว่าประสบความสำเร็จไปก้าวหนึ่งแล้ว เมื่อไหร่ที่เราหยุด คนที่มุ่งมั่น จะก้าวล้ำหน้าเราไปสู่บันไดที่สูงขึ้น แต่มีคนหลายคน ปรารถนาให้มีคนที่มุ่งมั่นอยู่ใกล้ตัว เพราะเขาจะผลักดันให้เราไม่หยุดก้าว เพื่อรักษาชัยชนะไว้ให้ได้ตลอดไป ทันที่ที่เขาเริ่มหนึ่งก้าว เราต้องก้าวให้ได้มากกว่า คนที่มุ่งมั่นจึงเป็นทั้งแรงกระตุ้น แรงผลัก และแรงบันดาลใจชั้นดี

ดังนั้น หากคุณอยากประสบความสำเร็จเหนือความสำเร็จใด ๆ

คนที่มุ่งมั่น จึงเป็นคนที่น่าปรารถนามีไว้ใกล้ตัวที่สุด

แม้เขาจะน่ากลัวก็ตาม

ทั้งรัก ทั้งเกลียด จริง ๆ


วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ทำเกินร้อย หรือ แค่พอดี

จงลงมือทำ "เกินร้อย" ในงานที่เราเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง


เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำงานที่เราเชี่ยวชาญ ทั้งจากการเรียนรู้จากทฤษฎีและประสบการณ์ ทำให้เรารู้มากและมีความสามารถล้นเหลือ เราจะมีความมั่นใจในงานนั้น ๆ มากเป็นพิเศษ

ใครถามอะไร ตอบได้
ใครขอให้อธิบายอะไร ไม่มีติดขัด 

ดังนั้น ถึงเวลาลงมือทำมัน จงทำให้เกินร้อย 

เพราะการทำไม่เต็มที่ นั่นหมายถึงเรากำลังดูถูกความสามารถของเรา เรากำลังขาดความมั่นใจ เรากำลังทำให้คนอื่นขาดศรัทธาที่เคยเชื่อใจว่า เรา รู้ดีที่สุด

แต่...

จงทำแค่ "พอดี" ในสิ่งที่เราไม่ชำนาญ


เมื่อไม่รู้ ก็อย่าได้เที่ยวอวดฉลาดว่ารู้มาก ความสามารถไม่มี ก็อย่าได้สร้างความมั่นใจอันไม่มีจริงให้กับคนอื่น 

เมื่อไม่รู้ ก็จงทำเพียงแค่ในส่วนที่รู้และมั่นใจในความรู้นั้น 

่ส่วนที่ไม่รู้ จงหาผู้ช่วยให้ความรู้และลงมือทำไปด้วยกัน

อึ่งอ่างที่อยากพองตัวให้เท่ากับวัว ก็ไม่ต่างกับคนที่ไม่รู้จักความพอดีของตัวเอง


ฉันใด ก็ ฉันนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

เป็นข้อคิดและคำเตือนที่ดีสำหรับหัวหน้างานทั้งมือใหม่ มือเก่าทุกคน มันใช่เลย!!

คนมีอำนาจ มักจะลืมตัวแทบจะทั้งนั้น บางคน อาจจะรู้ตัวเร็วหน่อย กลับตัวทัน ได้เป็นที่รักของลูกน้อง

บางคน ไม่รู้ตัว ว่ากำลังหลงระเริงกับอำนาจ จนต้องเกิดเหตุการณ์ให้ต้องสำนึก เช่นลูกน้องลาออกทั้งทีม ผลงานแผนกไม่ตรงเป้า มีแต่ถดถอยลงไป เพราะลุกน้องไม่มีใจอยากทำงานด้วย จากนั้น ถึงจะรู้สึกตัว ยังไม่สายก็ดี แต่ถ้าสายไปแล้ว ก็คงโดนปวดใจกันแน่นอน

บางคนอาจจะรู้ตัว แต่กูไม่สน กูมีอำนาจซะอย่าง ใครจะทำไม ใช้อำนาจทั้งผิดและถุก ถือว่าตนมีบางสิ่งในมือที่สามารถเจรจาต่อรองและยังคงนั่งครองเก้าอี้ในตำแหน่งนั้น ๆ ได้ ใครหือใครเกรียน เชิญ!! เจอแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปวดใจ แต่เรียกว่าปวดทั้งตัว ปวดทั้งองค์กร

อำนาจ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าอยากได้ทั้่งอำนาจและบารมีละก็ จำข้อคิดนี้ไว้เสมอ

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"




Photo: "ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

เป็นข้อคิดและคำเตือนที่ดีสำหรับหัวหน้างานทั้งมือใหม่ มือเก่าทุกคน มันใช่เลย!!

คนมีอำนาจ มักจะลืมตัวแทบจะทั้งนั้น บางคน อาจจะรู้ตัวเร็วหน่อย กลับตัวทัน ได้เป็นที่รักของลูกน้อง

บางคน ไม่รู้ตัว ว่ากำลังหลงระเริงกับอำนาจ จนต้องเกิดเหตุการณ์ให้ต้องสำนึก เช่นลูกน้องลาออกทั้งทีม ผลงานแผนกไม่ตรงเป้า มีแต่ถดถอยลงไป เพราะลุกน้องไม่มีใจอยากทำงานด้วย จากนั้น ถึงจะรู้สึกตัว ยังไม่สายก็ดี แต่ถ้าสายไปแล้ว ก็คงโดนปวดใจกันแน่นอน 

บางคนอาจจะรู้ตัว แต่กูไม่สน กูมีอำนาจซะอย่าง ใครจะทำไม ใช้อำนาจทั้งผิดและถุก   ถือว่าตนมีบางสิ่งในมือที่สามารถเจรจาต่อรองและยังคงนั่งครองเก้าอี้ในตำแหน่งนั้น ๆ ได้ ใครหือใครเกรียน เชิญ!! เจอแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปวดใจ แต่เรียกว่าปวดทั้งตัว ปวดทั้งองค์กร

อำนาจ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าอยากได้ทั้่งอำนาจและบารมีละก็ จำข้อคิดนี้ไว้เสมอ

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อย่าทำตัวเป็น "ลูกทาส" กลับชาติมาเกิด

อย่าทำตัวเป็น "ลูกทาส" กลับชาติมาเกิด

คนทำงาน ไม่ได้ถุกจ้างมาให้สงบปาก สงบคำ แต่ทุกคนได้รับเงินค้าจ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการทำงานร่วมกันในบริษัทและผลักดันให้ธุรกิจของเจ้าของบริษัท อยู่รอดได้ มีเงินเดือนจ่ายให้กับเราทุกเดือน

และทุกสิ้นปี ได้โบนัสเป็นของขวัญ

คนทำงาน ไ
ม่ได้ถูกจ้างมาให้ ยอม ฉันยอมทุกอย่าง  แต่มีสิทธิ์ที่จะได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระเสรี แค่อยู่ในขอบเขตของจริยธรรมและมโนธรรม

มิใช่ต่างคนต่างฟัดกัน เพื่อจะให้เอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้

โดยลืมถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เข้ามาอยุ่ในบริษัทนี้กันแต่ต้น


คนทำงาน ไม่ได้ถูกจ้างมาให้ อยู่ในความมืด กดอยู่ในตุ่ม เจอผี (หัวหน้า) ที วิ่งหนีอย่างกับในหนังเรื่อง บ้านผีปอบ

อะอะก็หนีลงตุ่ม เอะอะก็เอาสุ่มครอบหัว

คิดหรือว่าจะหลบพ้น ในเมื่ออย่างไร ก็ต้องทำงานร่วมกัน

ออกจากที่มืด มายืนในที่สว่างให้ใครต่อใครส่องเห็นสมองเราด้วย

อย่าหลบแต่ในตุ่มอย่างเดียว

คนทำงาน ไม่ได้ถูกจ้างมาให้เป็นลูกทาสใคร ทั้งที่ ร.5 ท่านได้ให้เลิกทาสมาตั้งนานแล้ว แต่ตัวเองยังทำตัวอย่างกับลูกทาสในเรือนเบี้ย

เขาสั่งอะไรก็ทำ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ พอกลับเรือนทาสที บ่นงุบงิบกับทาสคนอื่นซะงั้น

อย่าเอาโซ่ตรวนที่เขาถอดออกแล้วมาใส่ติดตัว

เพราะความเคยชิน หรือเพราะไม่กล้ายืนหยัดด้วยตัวเองเลย


อยากก้าวหน้า ก็ต้องปลดปล่อยตัวเองจากความเป็นทาส และโต้แย้ง หาเรื่องทะเลาะกับหัวหน้า

ให้ได้เจ็บ ๆ คัน ๆ พอเป็นกระสัย จะได้ไม่นิ่งอยู่กับที่

แต่อย่าได้ถึงขนาดเถียงกันเอาเป็นเอาตาย 


อย่างนั้น ลูกทาสก็เตรียมตัวตายได้เลย 


เพราะเจ้านาย ยังไง ก็ไม่มีวันตายก่อนทาสแน่นอน


- อยากก้าวหน้า ต้องหมั่นทะเลาะกับเจ้านาย -



วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

- 1 วินาที เปลี่ยนชีวิต -

คนเราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จนี่

มันอยู่แค่ในวินาทีเดียวเองจริง ๆ นะ


อยากวิ่ง
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่คว้ารองเท้ามาสวม
ก็ไม่มีทางได้ออกไปวิ่ง


อยากเล่นกอล์ฟ
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หยิบถุงกอล์ฟ หรือไม้กอล์ฟ แล้วขับรถไปสนามกอล์ฟ
ก็ไม่มีทางได้เล่นกอล์ฟ


อยากผอม
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หยุดกินของอ้วน ไม่ออกกำลังกาย
ก็ไม่มีทางผอม


อยากเขียนหนังสือ
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือพิมพ์หรือเขียน
ก็ไม่มีทางได้เขียนหนังสือ


อยากก้าวหน้า
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือทำงาน หรือสร้างไอเดีย
ก็ไม่มีทางก้าวหน้า


อยากรวย
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หาเงิน
ก็ไม่มีทางรวย


อยากมีความสุข
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ปล่อยวางความทุกข์
ก็ไม่มีวันหาความสุขเจอ


อยากทำอะไร
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือทำอะไร
ก็ไม่มีทางได้ทำอะไร


แล้วจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร


แค่วินาทีเดียวจริง ๆ

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความสวยงามของดอกไม้ในบ้าน กับแรงบันดาลใจ

ความสวยงาม คือสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างแรงบันดาลใจด้วยการกระตุ้นต่อมความสุขให้กับคนทุกเพศทุกวัยเสมอ
Beauty is a good tool to inspire and motivate people at all level 





วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

เชื่อหรือไม่ ชั่ววินาทีเดียว สามารถเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้เลย

เชื่อหรือไม่ ชั่ววินาทีเดียว สามารถเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้เลย

เมื่อวานเย็น ถึงช่วงเวลาที่ต้องไปวิ่ง แต่ความขี้เกียจ เกือบทำให้เราไม่ได้รักษาสุขภาพอย่างที่เราตั้งใจ แค่ชั่ววินาทีเดียว ที่เราเอาชนะความขี้เกียจได้ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกุญแจรถ ขับไปสวนสาธารณะ แล้วเราก็ได้วิ่งสมตามที่เราตั้งใจ



ในบางจังหวะที่เราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ความขี้เกียจอาจทำให้เราไม่ได้ทำมัน เช่น ตั้งใจจะออกกำลังกาย ถึงเวลาที่ต้องไปยิม ต้องไปวิ่ง ต้องไปแอโรบิก แต่เพราะความขี้เกียจ ทำให้เราไม่ไปสักที พอนานเข้า ความขี้เกียจมันก็จะเกาะกินอยู่กับเรา จนเราหมดความตั้งใจไปเลยก็ได้ อีกอย่าง เราก็คงคิดด้วยแหละว่า เอาน่า วันนี้ไม่ได้ไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเอาใหม่ แล้วถ้าพรุ่งนี้เราขี้เกียจอีกล่ะ เราจะได้ไปออกกำลังกายไหม

เหมือนเวลาที่เราทำงาน ยังไม่เดดเลน์ กูก็ยังไม่ทำ เพราะความขี้เกียจและก็ด้วยความที่คิดว่า ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ สุดท้าย ก็ต้องมาปั่นกันแทบตายตอนวันสุดท้าย ผลงานที่ออกมาก้ไม่ดีพอ ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบหลาย ๆ รอบ ไม่มีเวลาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (แค่ส่งให้ทัน ก็บุญหัวแล้ว) พอสิ้นปี ก็มาบ่นว่า ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน ตำแหน่งไม่เลื่อน ทำไมล่ะ ทำไม แหม่ะ ก็แค่ย้อนเวลากลับไปดู เราก็จะได้คำตอบชัดเจนเลย

แต่เชื่อหรือไม่ ว่าแค่ชั่ววินาทีเดียวที่เรารู้สึกว่าเรากำลังขี้เกียจ แค่เราขยับตัว ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ต้องทำ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า  เพื่อไปออกกำลังกาย ลุกขึ้นมาหยิบงานที่ต้องทำส่ง ลุกขึ้นมาเดินไปจัดการงานที่คั่งค้างไว้ ลุกขึ้นไปตามงานที่เพื่อน

วินาทีที่เราแค่ลุกขึ้น เราจะได้ทำในสิ่งที่เราจะต้องทำ

แค่ชั่ววินาทีเดียวจริงๆ


ไม่เชื่อ ลองดูสิคะ