วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

เป็นข้อคิดและคำเตือนที่ดีสำหรับหัวหน้างานทั้งมือใหม่ มือเก่าทุกคน มันใช่เลย!!

คนมีอำนาจ มักจะลืมตัวแทบจะทั้งนั้น บางคน อาจจะรู้ตัวเร็วหน่อย กลับตัวทัน ได้เป็นที่รักของลูกน้อง

บางคน ไม่รู้ตัว ว่ากำลังหลงระเริงกับอำนาจ จนต้องเกิดเหตุการณ์ให้ต้องสำนึก เช่นลูกน้องลาออกทั้งทีม ผลงานแผนกไม่ตรงเป้า มีแต่ถดถอยลงไป เพราะลุกน้องไม่มีใจอยากทำงานด้วย จากนั้น ถึงจะรู้สึกตัว ยังไม่สายก็ดี แต่ถ้าสายไปแล้ว ก็คงโดนปวดใจกันแน่นอน

บางคนอาจจะรู้ตัว แต่กูไม่สน กูมีอำนาจซะอย่าง ใครจะทำไม ใช้อำนาจทั้งผิดและถุก ถือว่าตนมีบางสิ่งในมือที่สามารถเจรจาต่อรองและยังคงนั่งครองเก้าอี้ในตำแหน่งนั้น ๆ ได้ ใครหือใครเกรียน เชิญ!! เจอแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปวดใจ แต่เรียกว่าปวดทั้งตัว ปวดทั้งองค์กร

อำนาจ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าอยากได้ทั้่งอำนาจและบารมีละก็ จำข้อคิดนี้ไว้เสมอ

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"




Photo: "ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

เป็นข้อคิดและคำเตือนที่ดีสำหรับหัวหน้างานทั้งมือใหม่ มือเก่าทุกคน มันใช่เลย!!

คนมีอำนาจ มักจะลืมตัวแทบจะทั้งนั้น บางคน อาจจะรู้ตัวเร็วหน่อย กลับตัวทัน ได้เป็นที่รักของลูกน้อง

บางคน ไม่รู้ตัว ว่ากำลังหลงระเริงกับอำนาจ จนต้องเกิดเหตุการณ์ให้ต้องสำนึก เช่นลูกน้องลาออกทั้งทีม ผลงานแผนกไม่ตรงเป้า มีแต่ถดถอยลงไป เพราะลุกน้องไม่มีใจอยากทำงานด้วย จากนั้น ถึงจะรู้สึกตัว ยังไม่สายก็ดี แต่ถ้าสายไปแล้ว ก็คงโดนปวดใจกันแน่นอน 

บางคนอาจจะรู้ตัว แต่กูไม่สน กูมีอำนาจซะอย่าง ใครจะทำไม ใช้อำนาจทั้งผิดและถุก   ถือว่าตนมีบางสิ่งในมือที่สามารถเจรจาต่อรองและยังคงนั่งครองเก้าอี้ในตำแหน่งนั้น ๆ ได้ ใครหือใครเกรียน เชิญ!! เจอแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปวดใจ แต่เรียกว่าปวดทั้งตัว ปวดทั้งองค์กร

อำนาจ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าอยากได้ทั้่งอำนาจและบารมีละก็ จำข้อคิดนี้ไว้เสมอ

"ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง"

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อย่าทำตัวเป็น "ลูกทาส" กลับชาติมาเกิด

อย่าทำตัวเป็น "ลูกทาส" กลับชาติมาเกิด

คนทำงาน ไม่ได้ถุกจ้างมาให้สงบปาก สงบคำ แต่ทุกคนได้รับเงินค้าจ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการทำงานร่วมกันในบริษัทและผลักดันให้ธุรกิจของเจ้าของบริษัท อยู่รอดได้ มีเงินเดือนจ่ายให้กับเราทุกเดือน

และทุกสิ้นปี ได้โบนัสเป็นของขวัญ

คนทำงาน ไ
ม่ได้ถูกจ้างมาให้ ยอม ฉันยอมทุกอย่าง  แต่มีสิทธิ์ที่จะได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระเสรี แค่อยู่ในขอบเขตของจริยธรรมและมโนธรรม

มิใช่ต่างคนต่างฟัดกัน เพื่อจะให้เอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้

โดยลืมถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เข้ามาอยุ่ในบริษัทนี้กันแต่ต้น


คนทำงาน ไม่ได้ถูกจ้างมาให้ อยู่ในความมืด กดอยู่ในตุ่ม เจอผี (หัวหน้า) ที วิ่งหนีอย่างกับในหนังเรื่อง บ้านผีปอบ

อะอะก็หนีลงตุ่ม เอะอะก็เอาสุ่มครอบหัว

คิดหรือว่าจะหลบพ้น ในเมื่ออย่างไร ก็ต้องทำงานร่วมกัน

ออกจากที่มืด มายืนในที่สว่างให้ใครต่อใครส่องเห็นสมองเราด้วย

อย่าหลบแต่ในตุ่มอย่างเดียว

คนทำงาน ไม่ได้ถูกจ้างมาให้เป็นลูกทาสใคร ทั้งที่ ร.5 ท่านได้ให้เลิกทาสมาตั้งนานแล้ว แต่ตัวเองยังทำตัวอย่างกับลูกทาสในเรือนเบี้ย

เขาสั่งอะไรก็ทำ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ พอกลับเรือนทาสที บ่นงุบงิบกับทาสคนอื่นซะงั้น

อย่าเอาโซ่ตรวนที่เขาถอดออกแล้วมาใส่ติดตัว

เพราะความเคยชิน หรือเพราะไม่กล้ายืนหยัดด้วยตัวเองเลย


อยากก้าวหน้า ก็ต้องปลดปล่อยตัวเองจากความเป็นทาส และโต้แย้ง หาเรื่องทะเลาะกับหัวหน้า

ให้ได้เจ็บ ๆ คัน ๆ พอเป็นกระสัย จะได้ไม่นิ่งอยู่กับที่

แต่อย่าได้ถึงขนาดเถียงกันเอาเป็นเอาตาย 


อย่างนั้น ลูกทาสก็เตรียมตัวตายได้เลย 


เพราะเจ้านาย ยังไง ก็ไม่มีวันตายก่อนทาสแน่นอน


- อยากก้าวหน้า ต้องหมั่นทะเลาะกับเจ้านาย -



วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

- 1 วินาที เปลี่ยนชีวิต -

คนเราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จนี่

มันอยู่แค่ในวินาทีเดียวเองจริง ๆ นะ


อยากวิ่ง
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่คว้ารองเท้ามาสวม
ก็ไม่มีทางได้ออกไปวิ่ง


อยากเล่นกอล์ฟ
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หยิบถุงกอล์ฟ หรือไม้กอล์ฟ แล้วขับรถไปสนามกอล์ฟ
ก็ไม่มีทางได้เล่นกอล์ฟ


อยากผอม
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หยุดกินของอ้วน ไม่ออกกำลังกาย
ก็ไม่มีทางผอม


อยากเขียนหนังสือ
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือพิมพ์หรือเขียน
ก็ไม่มีทางได้เขียนหนังสือ


อยากก้าวหน้า
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือทำงาน หรือสร้างไอเดีย
ก็ไม่มีทางก้าวหน้า


อยากรวย
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่หาเงิน
ก็ไม่มีทางรวย


อยากมีความสุข
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ปล่อยวางความทุกข์
ก็ไม่มีวันหาความสุขเจอ


อยากทำอะไร
ถ้าวินาทีที่คิด
ไม่ลงมือทำอะไร
ก็ไม่มีทางได้ทำอะไร


แล้วจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร


แค่วินาทีเดียวจริง ๆ

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความสวยงามของดอกไม้ในบ้าน กับแรงบันดาลใจ

ความสวยงาม คือสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างแรงบันดาลใจด้วยการกระตุ้นต่อมความสุขให้กับคนทุกเพศทุกวัยเสมอ
Beauty is a good tool to inspire and motivate people at all level 





วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

เชื่อหรือไม่ ชั่ววินาทีเดียว สามารถเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้เลย

เชื่อหรือไม่ ชั่ววินาทีเดียว สามารถเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้เลย

เมื่อวานเย็น ถึงช่วงเวลาที่ต้องไปวิ่ง แต่ความขี้เกียจ เกือบทำให้เราไม่ได้รักษาสุขภาพอย่างที่เราตั้งใจ แค่ชั่ววินาทีเดียว ที่เราเอาชนะความขี้เกียจได้ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกุญแจรถ ขับไปสวนสาธารณะ แล้วเราก็ได้วิ่งสมตามที่เราตั้งใจ



ในบางจังหวะที่เราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ความขี้เกียจอาจทำให้เราไม่ได้ทำมัน เช่น ตั้งใจจะออกกำลังกาย ถึงเวลาที่ต้องไปยิม ต้องไปวิ่ง ต้องไปแอโรบิก แต่เพราะความขี้เกียจ ทำให้เราไม่ไปสักที พอนานเข้า ความขี้เกียจมันก็จะเกาะกินอยู่กับเรา จนเราหมดความตั้งใจไปเลยก็ได้ อีกอย่าง เราก็คงคิดด้วยแหละว่า เอาน่า วันนี้ไม่ได้ไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเอาใหม่ แล้วถ้าพรุ่งนี้เราขี้เกียจอีกล่ะ เราจะได้ไปออกกำลังกายไหม

เหมือนเวลาที่เราทำงาน ยังไม่เดดเลน์ กูก็ยังไม่ทำ เพราะความขี้เกียจและก็ด้วยความที่คิดว่า ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ สุดท้าย ก็ต้องมาปั่นกันแทบตายตอนวันสุดท้าย ผลงานที่ออกมาก้ไม่ดีพอ ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบหลาย ๆ รอบ ไม่มีเวลาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (แค่ส่งให้ทัน ก็บุญหัวแล้ว) พอสิ้นปี ก็มาบ่นว่า ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน ตำแหน่งไม่เลื่อน ทำไมล่ะ ทำไม แหม่ะ ก็แค่ย้อนเวลากลับไปดู เราก็จะได้คำตอบชัดเจนเลย

แต่เชื่อหรือไม่ ว่าแค่ชั่ววินาทีเดียวที่เรารู้สึกว่าเรากำลังขี้เกียจ แค่เราขยับตัว ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ต้องทำ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า  เพื่อไปออกกำลังกาย ลุกขึ้นมาหยิบงานที่ต้องทำส่ง ลุกขึ้นมาเดินไปจัดการงานที่คั่งค้างไว้ ลุกขึ้นไปตามงานที่เพื่อน

วินาทีที่เราแค่ลุกขึ้น เราจะได้ทำในสิ่งที่เราจะต้องทำ

แค่ชั่ววินาทีเดียวจริงๆ


ไม่เชื่อ ลองดูสิคะ

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

KIT คิด หลักการทำงานจากสมเด็จพระบรมราชชนก

"สมเด็จพระบรมราชชนกทรงสั่งสอนนักเรียนอยู่เสมอคือ หลักของการทำงาน สรุปได้ว่าต้องมี

1.ความรู้ในสิ่งที่พึงกระทำ (Knowledge) 

2.ต้องมีไหวพริบในการกระทำ (Intelligence)

3.ต้องมีความละเอียดถี่ถ้วน (Thoroughness)

เพื่อให้จำง่ายให้รวมอักษรตัวแรกว่า KIT หรือ คิด คือการเตือนให้ใช้ความคิด"

ข้อคิดดีๆที่ได้จากหนังสือพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจสมเด็จย่า ซื้อหาได้จากพระตำหนักดอยตุง เชียงราย 







สำหรับคนทำงาน หากต้องการประสบความสำเร็จด้วยการนำหลักการที่ท่านได้ทรงสั่งสอนไว้ ก็จะเป็นการดีมาก โดยที่

1. ต้องเชี่ยวชาญในสาขา ตำแหน่ง แผนก หรืองานที่ตนรับผิดชอบให้ดี มิใช่การทำงานแบบขอไปที เข้าเช้า ออกเย็น รอรับเงินเดือนอย่างเดียวไม่ได้ ความเชี่ยวชาญที่ว่านี้ ก็หมายรวมถึงการที่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ให้กับผู้อื่นได้ ทั้งสอนลูกน้องให้ทำงานเป็น มอบหมายงานให้ลูกน้องไปทำต่อได้อย่างไม่ติดขัด หรือแม้แต่การรายงานผลการทำงานของเรา้เองให้กับหัวหน้า่งานได้รับทราบ และเข้าใจ เมื่อหัวหน้านำไปรายงานต่อ หรือขยายผลงานของเราให้เป็นโครงการที่ส่งผลดีต่อการเติบโตขององค์กร ก็สามารถทำได้ทันที และที่สุด ใคร ๆ ก็จะต่างชื่นชมในสิ่งที่เราทำอย่างเข้าใจ มิใช่การชื่นชมแค่ผิวเผิน 

2. นอกจากความฉลาดแล้ว ก็ต้องมีความเฉลียวด้วย ลงมือทำสิ่งใด ควรทำอย่างรอบคอบ คิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ คิดให้รอบด้าน เมื่อคิดแล้วลงมือทำ หากเจออุปสรรค ก็สามารถวิเคราะห์ ตรึกตรองปัญหา และหาทางออกได้อย่างไม่ยากเย็น แม้จะไม่สามารถแก้ได้ในครั้งแรก แต่ไม่หยุดหาคำตอบ มุ่งมั่น ตั้งใจที่จะศึกษาอย่างละเอียด เข้าใจในปัญหา รับรู้กระบวนการตั้งแต่ต้นจนสุดท้ายอย่างถ่องแท้ ท้ายที่สุด คำตอบจะอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน

3. เวลาลงมือทำงาน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ยากหรือง่าย ไม่ควรทำแบบผักชีโรยหน้า แต่ต้องทำงานอย่างจริงจัง ทำความเข้าใจในงานในทุุกรายละเอียด ไม่มองข้ามจุดใดจุดหนึ่งไปอย่างประมาท หากไม่แน่ใจ ควรเขียนรายการออกมา วิเคราะห์แต่ละข้อ และประเมินความเป็นไปได้ ความละเอียดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของตัวงานเท่านั้น แต่หมายถึงความละเอียดกับการใส่ใจต่อคนรอบข้างที่อาจได้รับผลกระทบต่องานที่ทำ ทั้งด้านกายภาพและจิตใจ คิดสะระตะไว้ก่อนว่า จะมีผู้ใดได้รับผลกระทบบ้าง หากต้องแจ้งให้เขารับทราบ ควรทำทันที หากต้องการความร่วมมือ ควรขอร้องอย่างจริงใจพร้อมให้ข้อมูลแก่เขาให้ครบถ้วน ไม่ควรกั๊กไว้ประหนึ่งเกรงจะถุกฉกชิงผลงานไป หากมีความจริงใจต่อกันแล้วละก็ ไม่ว่างานไหน ๆ ก็สำเร็จไปด้วยความสาัมัคคีร่วมกันแน่นอน

คิดเสมอ ก่อนลงมือทำ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จงเป็นผู้นำของผู้นำ มิใช่แค่ผู้นำของผู้ตาม


จงเป็น...

ผู้นำของผู้นำ

มิใช่แค่..
ผู้นำของผู้ตาม
จงเป็นผู้นำของผู้นำ มิใช่แค่ ผู้นำของผู้ตาม
ใคร ๆ ก็เป็นผู้นำได้ เพียงแค่คุณฝึกและหมั่นสร้างภาวะผู้นำให้เกิดกับตัวเรา ในหลายตำรา ในหลายอาจารย์ และในหลายสำนัก ต่างก็บอกเหมือนกัน

แต่การจะเป็นผู้นำให้ยืนยาว และเป็นผู้นำเหนือผู้นำนั้น ใคร ๆ ก็ทำ ได้จริงหรือ เพราะมันต้อง กล้า ซ่า บ้า และท้าทาย กว่าจะขึ้นมายืนล้ำหน้าทุกคน
สตีฟ จ๊อปส์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากคนหนึ่ง Nokia เคยเป็นผู้นำที่คิดเพียงมีผู้ตาม ทำให้ผู้คนหันมาใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งถือว่าทำให้เราเปลี่ยนลักษณะการดำเนินชีวิต แต่ Nokia ก็พอใจเพียงแค่นั้น และไม่ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ อีกเลย แต่จ๊อปส์ไม่คิดอย่างนั้น เขาต้องการเป็นผู้นำของผู้นำ ด้วยการโค่น Nokia และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ โลกใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว กับเทคโนโลยีที่เกือบครึ่งของประชากรโลกต้องใช้โทรศัพท์เพื่อ social network มิใช่เพียงโทรเข้า โทรออก และกลายเป็นตระกูล "i-" fever รวมถึงสร้างผู้นำของผู้ตามให้เกิดขึ้นใหม่ คือ Samsung
เมื่อจ๊อปส์เสียชีวิต Apple ก็ไม่สามารถรักษาความเป็นผู้นำของผู้นำได้ และกลับไปคืนสู่ความเป็นผู้นำของผู้ตาม เหมือนที่ Nokia เคยเป็น

ผู้นำของผู้นำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก (ถ้ายาก คงไม่มีใครทำได้)


ใคร ๆ ก็เป็นที่หนึ่งได้ แต่การจะรักษาความเป็นที่หนึ่งไว้ตลอดไปนี่สิ ยาก